นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันพุธ (2 ส.ค.) ว่า การที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐนั้น ไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
"นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดนั้น เพราะตลาดเป็นตัวกำหนดต้นทุนการกู้ยืม ไม่ใช่สำนักงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ" นายไดมอนกล่าว
นายไดมอนกล่าวเสริมอีกว่า แต่ถึงกระนั้นก็เป็นเรื่องที่ "น่าขัน" ที่ประเทศอื่น ๆ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือมากกว่าสหรัฐ กลับต้องพึ่งพาเสถียรภาพด้านความมั่นคงที่สหรัฐและกองทัพสหรัฐเป็นผู้สร้างขึ้น
"การจัดอันดับให้ประเทศอื่นที่ไม่ใช่อเมริกาได้ระดับ AAA เป็นเรื่องที่น่าขัน อเมริกายังคงเป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุดในโลกใบนี้ และเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกใบนี้" นายไดมอนกล่าว
ทั้งนี้ ฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยระบุถึงสถานะการคลังของสหรัฐที่มีแนวโน้มถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ระบบธรรมาภิบาลอ่อนแอลง และภาระหนี้สินโดยรวมของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
"เราควรยกเลิกเพดานหนี้ มันถูกใช้โดยทั้งสองฝ่าย ในรูปแบบที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาด" นายไดมอนกล่าว
นอกจากนี้ นายไดมอนยังได้กล่าวถึงประเด็นอื่น ๆ รวมถึง เศรษฐกิจสหรัฐ กฎระเบียบของธนาคาร ภูมิรัฐศาสตร์ และปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) โดยเขากล่าวว่า เอไออย่าง แชตจีพีที (ChatGPT) คือตัวพลิกสถานการณ์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะช่วยให้คนรุ่นใหม่ในอนาคตมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และมีชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐนั้น นายไดมอนกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ การว่างงานต่ำ และงบดุลที่แข็งแกร่ง
สิ่งที่นายไดมอนกังวลมากที่สุดคือความเสี่ยงต่าง ๆ ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากสงครามยูเครน และความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการควบคุมงบดุลบัญชีด้วยการใช้นโยบายทางการเงินแบบคุมเข้มเชิงปริมาณ (Quantitative Tightening)