นายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศภายใต้ทุก ๆ สถานการณ์ พร้อมกระตุ้นการผลิตและการส่งออกข้าว ท่ามกลางภัยคุกคามต่ออุปทานทั่วโลก
คำสั่งของนายฝั่มที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามเมื่อวันอาทิตย์ (6 ก.ค.) ระบุว่า นายฝั่มมีคำสั่งให้กระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อมดำเนินการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกหลัก และบรรลุเป้าหมายในการผลิตข้าวมากกว่า 43 ล้านตัน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกันนายฝั่มยังมีคำสั่งให้กระทรวงต่าง ๆ และรัฐบาลระดับท้องถิ่นรักษาสมดุลของปริมาณข้าวสำหรับบริโภคในประเทศและสำหรับการส่งออก เพื่อรับประกันถึงความมั่นคงทางอาหาร และยกเลิกกฎข้อบังคับที่เป็นอุปสรรค เพื่อขยายการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ
รัฐบาลเวียดนามเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ว่า ผลผลิตข้าวเปลือกในปีนี้อาจจะมากกว่า 43 ล้านตัน และคาดว่าการส่งออกข้าวจะสูงแตะระดับ 7.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อนหน้า
นายฝั่มกล่าวอีกว่า ในบางพื้นที่ของประเทศนั้น กลุ่มผู้ค้าข้าวได้กว้านซื้อข้าวและข้าวเปลือกไว้จำนวนมาก ก่อให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ข้าวในพื้นที่ ส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นเกินความเหมาะสม เขาจึงมีคำสั่งให้มีการลงโทษอย่างเข้มงวดต่อการเก็งกำไร การแสวงหาผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย และการกระทำที่ก่อให้เกิดการหยุดชะงักในตลาดท้องถิ่น และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงข้าวเวียดนามในระดับโลก
ทั้งนี้ คำสั่งโดยตรงของนายฝั่ม มีขึ้นหลังจากที่อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายหลักของโลก ระงับการส่งออกข้าวบางชนิด และหน่วยงานของรัฐบาลไทยเรียกร้องให้ชาวนาลดการปลูกข้าวเพื่อประหยัดน้ำ เนื่องจากฝนแล้ง
ไทยกำลังเผชิญกับภาวะปริมาณน้ำฝนอยู่ในระดับต่ำ และเพื่อเป็นการสงวนน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จึงได้เรียกร้องให้เกษตรกรหันไปเพาะปลูกพืชอื่น ๆ ที่ใช้น้ำน้อยกว่า และสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างรวดเร็ว