นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของจีนจะหดตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ค. เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงเผชิญกับความยากลำบากจากภาวะอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.ของจีนจะลดลง 12.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ลดลง 12.4% ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ หากเป็นไปตามคาดการณ์ ยอดส่งออกเดือนก.ค.ถือเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่จีนเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนก.พ.ปี 2563 ซึ่งในเวลานั้นยอดส่งออกของจีนทรุดตัวลง 17.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิดที่เข้มงวดทั่วประเทศส่งผลให้ภาคการผลิตต้องหยุดชะงักลง
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) มีกำหนดเปิดเผยยอดการส่งออก, ยอดการนำเข้า และดุลการค้าประจำเดือนก.ค.ของจีนในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.)
อุตสาหกรรมการส่งออกของจีนได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก และยิ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ขณะที่นายลู่ ต้าเหลียง โฆษกสำนักงานศุลกากรจีนกล่าวว่า การค้าของจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดันในช่วงครึ่งหลังของปี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเงินเฟ้อสูงในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและปัญหาความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์