ซาอุดี อารามโค บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย รายงานผลกำไรกำไรสุทธิ 1.1281 แสนล้านริยัล (3.007 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งลดลงเกือบ 40% จากระดับ 4.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ท่ามกลางราคาไฮโดรคาร์บอนทั่วโลกที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ผลกำไรในไตรมาสที่สองนั้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ระดับ 2.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแบบสำรวจที่จัดทำโดยอารามโค
ในหนังสือยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ซาอุดีอาระเบียนั้น อารามโคระบุว่า การร่วงลงอย่างมากของผลกำไรนั้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงและอัตราผลกำไรจากการกลั่นกับเคมีภัณฑ์ที่ลดลง โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลพื้นฐานรวม 1.951 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสที่สอง
"นี่ยังคงเป็นสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ใช่ แม้ว่ามันจะไม่ได้น่าทึ่งเหมือนกับผลลัพธ์ที่เราได้เห็นเมื่อปีที่แล้ว แต่มันสอดคล้องกับแนวโน้มโดยรวมของอุตสาหกรรม" นางแครอล นัคเล นักวิเคราะห์จากคริสตอล เอเนอร์จี (Crystol Energy) กล่าวในรายการ Capital Connection ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ในวันจันทร์ (7 ส.ค.)
สำหรับกำไรสุทธินั้นลดลง 38% จากระดับ 4.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว โดยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 เพิ่มขึ้น 90% จากปี 2564 เนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากสงครามของรัสเซียในยูเครน
ทั้งนี้ ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรม โดยบีพี บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ รายงานผลกำไรไตรมาสที่สองเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ลดลงเกือบ 70% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่เอ็กซอนโมบิล, เชลล์ และโททาลเอนเนอร์ยี่ส์ ต่างรายงานผลประกอบการที่ลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงทั่วทั้งอุตสาหกรรม