สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ยอดเกินดุลการค้าของอินโดนีเซียหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนก.ค. แตะระดับ 1.31 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้าหดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์
รายงานระบุว่า ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าเดือนมิ.ย. แตะ 3.46 พันล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่ายอดเกินดุลการค้าเดือนก.ค. จะลดลงมาอยู่ที่ 2.53 พันล้านดอลลาร์
อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดส่งออกพุ่งสูงขึ้นโดยได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นทั่วโลก
ยอดเกินดุลการค้าปรับตัวลดลงในปีนี้เนื่องจากการส่งออกลดลงท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 39 แล้ว โดยยอดเกินดุลการค้ารายเดือนในระยะยาวได้ช่วยรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินรูเปีย
ในเดือนก.ค. ยอดส่งออกของอินโดนีเซียลดลง 18.03% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 2.088 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 18.30% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำของประเทศ เช่น ถ่านหินและน้ำมันปาล์มลดลง
ส่วนการนำเข้าของอินโดนีเซียลดลง 8.32% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.957 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 15.50%