สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ประกาศในวันนี้ว่า NBS จะยุติการเผยแพร่อัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี (youth unemployment rate) ตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป จนกว่าวิธีการสำรวจตลาดแรงงานของจีนจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ส่วนในการเปิดเผยข้อมูลแรงงานประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ NBS ไม่ได้เปิดเผยอัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว แต่ระบุเพียงว่าอัตราว่างงานโดยรวมปรับตัวขึ้น 5.3% จากระดับ 5.2% ในเดือนมิ.ย.
นายฝู หลิงหุ้ย โฆษก NBS กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องปรับปรุงสถิติด้านแรงงาน เพื่อประเมินว่าเราควรจะนับนักศึกษาที่หางานทำก่อนที่จะเรียนจบเข้ามารวมอยู่ในสถิติแรงงานด้วยหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องมีการวิจัยมากขึ้น"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มคนหนุ่มสาวของจีนกว่า 1 ใน 5 ไม่มีงานทำ ส่งผลให้อัตราว่างงานของคนในกลุ่มนี้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21% ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะพุ่งขึ้นอีกในช่วงฤดูร้อนปีนี้เนื่องจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจะไหลเข้าสู่ตลาดแรงงาน และจะไหลเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงฤดูหนาว
อย่างไรก็ดี การที่จีนประกาศยกเลิกการเผยแพร่อัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวนั้นได้ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสของข้อมูล ขณะที่นายคาร์ลอส คาซาโนวา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของบริษัทยูเนียน บันแคร์ พรีวี (Union Bancaire Privee) กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวของจีนไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกรู้สึกผ่อนคลาย แต่กลับสร้างความรู้สึกที่ถูกปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูล
"ก่อนหน้านี้เราคาดการณ์ไว้ว่า อัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 22% ในเดือนก.ค. แต่ดูเหมือนว่าตัวเลขอาจจะสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ด้วยเหตุนี้ จีนจึงตัดสินใจระงับการเผยแพร่ข้อมูลนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตลาดเผชิญกับความผันผวนมากเกินไป" นายคาซาโนวากล่าว