เมียนมาคาดการณ์ว่า การส่งออกข้าวจะพุ่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย และราคาข้าวไทยและเวียดนามที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อต้องหันไปสั่งซื้อข้าวจากแหล่งอื่น ๆ
นายเย มิน ออง ประธานสมาพันธ์ข้าวเมียนมาระบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปัญหาอุปทานที่ตึงตัวทั่วโลกมีแนวโน้มจะช่วยฟื้นฟูการส่งออกข้าวของเมียนมา ซึ่งร่วงลง 56% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ และทำให้เมียนมาเข้าใกล้เป้าหมายรายได้ประจำปีจากการส่งออกข้าวที่ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์
ข้อมูลของสมาพันธ์ฯ ระบุว่า เมียนมาส่งออกข้าวได้ราว 320,000 ตันตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ค. คิดเป็นรายได้เพียง 138 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจให้ความสำคัญกับการค้าข้าวคุณภาพสูงเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกข้าวเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่อินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการส่งออกข้าวบางส่วนเพื่อควบคุมราคาในประเทศก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ทำให้ราคาข้าวของประเทศคู่แข่งระดับภูมิภาคของเมียนมาพุ่งสูงขึ้นด้วย
นายเย มิน อองระบุว่า เมียนมาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เผชิญกับปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวย่ำแย่ลงไปอีกเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมืองจากการรัฐประหารในปี 2564 และนโยบายการส่งออกที่มุ่งเน้นการรักษาอุปทานในประเทศ ในขณะที่การขายข้าวคุณภาพสูงสามารถสร้างรายได้ได้มากถึง 700 ดอลลาร์ต่อตัน เทียบกับ 300-400 ดอลลาร์ต่อตันสำหรับข้าวที่มีคุณภาพต่ำกว่า และกล่าวเสริมว่า เมียนมายังจำกัดการส่งออกข้าวให้กับลูกค้าเฉพาะในประเทศที่ค่อนข้างมั่งคั่งด้วย