สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะประกาศผลการตัดสินอย่างเป็นทางการในวันนี้ เกี่ยวกับการพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่ออุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์ จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศคำตัดสินเบื้องต้นในเดือนธ.ค.2565 ระบุว่า บริษัทผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีน ได้แก่ BYD, Trina Solar, Longi Green Energy และ Canadian Solar ได้ใช้ฐานการผลิตในไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ
ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของจำนวนทั้งหมด
Auxin Solar ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยื่นฟ้องต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเพื่อให้มีการสอบสวนว่า ผู้ผลิตของจีนได้โยกย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่
ด้านสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐ (SEIA) เตือนว่าการเก็บภาษีนำเข้าต่อแผงโซลาร์เซลล์จากทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวจะส่งผลให้ชาวอเมริกันตกงาน 30,000 คน ขณะที่การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐหยุดชะงักลง หลังจากที่ได้ชะลอตัวลงแล้วอันเนื่องจากต้นทุนในระดับสูง ความล่าช้าในการขนส่งสินค้า รวมทั้งปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยขัดขวางนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ต้องการสนับสนุนโครงการใช้พลังงานหมุนเวียนในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศผลการตัดสินอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยให้ความเห็นชอบต่อการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา แต่จะยังไม่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด จนกว่าจะถึงเดือนมิ.ย.2567 เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา โดยจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 24 เดือนนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2565