บรรดานักวิเคราะห์กำลังประเมินถึงผลกระทบทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้นำเข้ารายใหญ่ หลังจากอินเดียประกาศจัดเก็บภาษีส่งออกหัวหอม 40% หลังจากที่ราคาหัวหอมภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น
กระทรวงการคลังของอินเดียระบุว่า การประกาศเรียกเก็บภาษีส่งออกหัวหอมเมื่อวันเสาร์ (19 ส.ค.) ที่ผ่านมานั้น จะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. เพื่อรักษาปริมาณอุปทานภายในประเทศให้เพียงพอและชะลออัตราเงินเฟ้อ
ส่วนกระทรวงกิจการผู้บริโภคอินเดียระบุว่า ราคาขายปลีกหัวหอมในอินเดียเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบรายปี โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30.72 รูปี (37 เซนต์) ต่อกิโลกรัมเมื่อวันที่ 19 ส.ค. เมื่อเทียบกับ 20.44 รูปี ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปุชาน ชาร์มา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคริสซิล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ แอนด์ อนาลิติกส์ (CRISIL Market Intelligence and Analytics) บริษัทวิจัยของอินเดียซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอส แอนด์ พี โกลบอลเปิดเผยว่า "ฝนที่ตกหนักบริเวณพื้นที่การผลิตหลักของรัฐมหาราษฏระและรัฐกรณาฏกะในเดือนก.ค. 2566 ส่งผลให้หัวหอมที่เก็บไว้ได้รับความเสียหาย"
กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียระบุว่า หลายพื้นที่ของอินเดียได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักในช่วงเดือนก.ค.
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของอินเดียในเดือนก.ค. พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนที่ 7.44% เมื่อเทียบรายปี โดยมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนอาหารในประเทศที่พุ่งสูงขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ข้อมูลจากมินเทค (Mintec) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า ราคาหัวหอมเดือนเม.ย. ลดลง 32.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขานรับอุปทานส่วนเกินอันเป็นผลมาจากการสุกงอมที่เร็วกว่ากำหนด
แต่ในขณะนี้อินเดียกำลังต่อสู้กับราคาผัก ผลไม้ และธัญพืชที่ระดับสูง โดยก่อนหน้านี้ ราคามะเขือเทศในอินเดียพุ่งขึ้นมากกว่า 300% เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และในเดือนก.ค. รัฐบาลอินเดียยังได้สั่งห้ามการส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติ เพื่อรักษาอุปทานภายในประเทศให้เพียงพอด้วย