บริษัทบีเอชพี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า ผลกำไรทั้งปีงบการเงิน 2566 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลดลง 37% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 1.342 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ที่ 1.389 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น และผลกระทบจากภาวะตลาดแรงงานตึงตัวในออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับปีงบการเงิน 2565 ซึ่งบีเอชพีสามารถทำกำไรได้สูงสุดในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ ผลประกอบการที่อ่อนแอยังส่งผลให้ราคาหุ้นบีเอชพีร่วงลง 1.2% ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้
อย่างไรก็ดี บีเอชพีได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับอุปสงค์ในจีน โดยนายไมค์ เฮนรี ซีอีโอของบริษัทบีเอชพีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการแถลงผลประกอบการว่า อุปสงค์เหล็กในหลายภาคส่วนของจีน ซึ่งไม่รวมธุรกิจการเริ่มสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ เช่นโครงสร้างพื้นฐาน, โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยานยนต์ ยังคงมีความแข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ดี นายเฮนรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบของการที่จีนใช้มาตรการสนับสนุนตลาดที่อยู่อาศัย และทางบริษัทกำลังจับตาใกล้ชิดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนตลาดได้มากเพียงใด
แม้ว่าบีเอชพีปรับลดกรอบคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนลงสู่ระดับ 5% - 5.5% จากระดับ 5.75% - 6.25% แต่ทางบริษัทก็คาดการณ์ว่าในปีนี้จีนจะสามารถผลิตเหล็กได้ในปริมาณมากกว่า 1 พันล้านตัน เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากตลาดเหล็กทั่วโลกที่ยังคงสดใส