อาร์เอ็มเอส (RMS) ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยงในเครือของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประมาณการว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าบนเกาะเมาวีในรัฐฮาวายได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าสูงประมาณ 4-6 พันล้านดอลลาร์
อาร์เอ็มเอสซึ่งจำลองความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้เปิดเผยการประเมินดังกล่าวในวันอังคาร (22 ส.ค.) โดยพิจารณาจากความเสียหายของทรัพย์สิน และการที่ธุรกิจต่าง ๆ หยุดชะงักเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ธุรกิจในรูปของสินทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย, เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม ตลอดจนสินทรัพย์ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
มูดี้ส์ระบุว่า ตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงของไฟป่าบนเกาะเมาวีซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปีของสหรัฐนั้น อาจจะมากกว่าที่อาร์เอ็มเอสประเมินไว้ พร้อมระบุว่า การประเมินความเสียหายไว้ที่ระดับหลายพันล้านดอลลาร์นั้น ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบของไฟป่าที่จะมีต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของรัฐฮาวาย อีกทั้งไม่ได้พิจารณาถึงค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่ใช้ไปกับการรับมือกับไฟป่า และต้นทุนทางสังคมที่เกิดจากไฟป่า
มูดี้ส์ยังระบุด้วยว่า การบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยไฟป่าบนเกาะเมาวีจะอยู่ในระดับที่สูงมาก เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อจะทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ มีราคาแพงขึ้นในระหว่างการบูรณะฟื้นฟูซึ่งต้องใช้เวลานาน โดยราคาสินค้าบนเกาะเมาวีนั้น เดิมก็มีราคาแพงอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเกาะที่มีทำเลที่ตั้งห่างไกล และต้นทุนด้านแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างก็อยู่ในระดับสูงด้วย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่เกาะเมาวีว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าบนเกาะเมาวีในครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย โดย ณ วันจันทร์ที่ 21 ส.ค. มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 115 รายจากเหตุการณ์ไฟป่า และประชาชนสูญหายกว่า 800 ราย
มูดี้ส์ประเมินว่า ความเสียหายส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองลาไฮนาซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของเกาะเมาวี โดยเปลวเพลิงได้กลืนกินพื้นที่ของเมืองแห่งนี้มากกว่า 2,100 เอเคอร์ และทำลายสิ่งปลูกสร้างไปเกือบ 2,200 แห่ง โดยมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับการประกันในเมืองลาไฮนาและเมืองคูลานั้นได้รับการประเมินไว้ที่ราว 2.5-4 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ มูดี้ส์คาดการณ์ว่า กรมธรรม์ประกันภัยจะครอบคลุมความเสียหายเกือบทั้งหมดประมาณ 75% หรืออาจจะมากกว่า เนื่องจากภัยพิบัติจากไฟป่ารวมอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกรมธรรม์ และฮาวายถือเป็นรัฐที่มีการประกันภัยแบบครอบคลุมในระดับสูง