นางโซอี ยูจโนวิช ผู้อำนวยการฝ่ายก๊าซเชิงบูรณาการและธุรกิจต้นน้ำของบริษัทเชลล์ระบุในวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า ราคาก๊าซโลกอาจเพิ่มขึ้นในระยะสั้น หากมีการผละงานประท้วงที่โรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในออสเตรเลีย แต่ขณะนี้ตลาดต่าง ๆ มีสมดุลเป็นอย่างดี เนื่องจากมีก๊าซสำรองระดับสูงในเอเชียเหนือและยุโรป
ทั้งนี้ ราคาก๊าซพุ่งทะยานขึ้นในเอเชียและยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความวิตกกังวลว่าการผละงานประท้วงอาจขัดขวางการส่งออกจากโรงงานก๊าซ LNG แห่งสำคัญ ๆ ของออสเตรเลีย ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทวู้ดไซด์ เอเนอร์จี กรุ๊ป (Woodside Energy Group) และบริษัทเชฟรอน (Chevron) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่จากสหรัฐ แต่ราคาก๊าซปรับตัวลงในสัปดาห์นี้
"อุปทานและอุปสงค์ก๊าซ LNG ค่อนข้างสมดุล ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่าราคาก๊าซจะมีความเปราะบางเล็กน้อย" นางยูจโนวิชระบุ
อย่างไรก็ตาม นางยูจโนวิชระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการป้องกันความเสี่ยงหรือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการซื้อจากผลพวงของข่าวการผละงานประท้วงแต่อย่างใด
"โลกมีปฏิกิริยาต่อข่าวการผละงานประท้วงมากเกินไปเล็กน้อยในแง่ของการตอบสนองด้านราคา" นางยูจโนวิชระบุ
ก่อนหน้านี้ สหภาพพันธมิตรนอกชายฝั่ง (The Offshore Alliance) ได้ออกมาเตือนว่าการผละงานประท้วงที่โรงงานผลิตก๊าซ LNG ในนอร์ทเวสต์เชลฟ์ อาจเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.เป็นอย่างเร็ว หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องค่าจ้าง
ส่วนพนักงานที่โรงงานผลิตก๊าซ LNG นอกชายฝั่งอีก 2 แห่ง ได้แก่กอร์กอนและวีธสโตน ซึ่งดำเนินงานโดยเชฟรอน ก็มีการลงมติเรื่องการผละงานประท้วงเช่นเดียวกัน โดยคาดการณ์ว่าผลการลงมติจะออกมาในวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค. โดยโรงงานทั้ง 3 แห่งรวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของอุปทานก๊าซ LNG โลก