บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.351 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.122 หมื่นล้านดอลลาร์
อินวิเดียคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2567 จะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.261 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่ายอดขายจะพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 170% ในไตรมาสดังกล่าวเมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้นกว่า 6% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดและแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของอินวิเดียสะท้อนให้เห็นว่า หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของอินวิเดียได้กลายมาเป็นปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยชิป AI รุ่น A100 และ H100 ของอินวิเดียถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสร้างแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ AI เช่นแชตบอต ChatGPT ของบริษัทโอเพนเอไอ
ในระหว่างการแถลงผลประกอบการ นายโคเลตต์ เครส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอินวิเดียได้แสดงความเชื่อมั่นว่า บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบในทันทีจากการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้มาตรการควบคุมการส่งออกชิป
"เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ของเราทั่วโลก เราคาดว่ามาตรการควบคุมการส่งออกชิปซึ่งรวมถึง GPU ของเราด้วยนั้น จะไม่มีผลกระทบในทันทีต่อผลประกอบการทางการเงินของเรา เมื่อมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้" นายเครสกล่าว