นางแคเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การที่จีนครอบงำแร่หายากที่มีความสำคัญนั้นทำให้ห่วงโซ่อุปทานสหรัฐมีความเปราะบาง
ทั้งนี้ แร่โลหะหายากนั้นถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ไฮเทค เช่น เครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาจีนได้เสริมสร้างความสามารถในการแปรรูปแร่โลหะ ทำให้จีนมีอำนาจอย่างมากในการกำหนดราคาในตลาดโลก
"สิ่งที่ดิฉันต้องการชี้ให้เห็นไม่ใช่เพียงความเสี่ยงเกี่ยวกับการที่จีนไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าการครอบงำตลาดแร่หายากของโลก ทำให้จีนมีอำนาจในการตัดสินใจ" นางไท่กล่าว
"เรายังมีความเสี่ยงจากการครอบงำตลาดแร่หายากของจีน จนกว่าเราจะสามารถเข้าถึงและสร้างห่วงโซ่อุปทานเพิ่มเติมได้"
สหรัฐเคยครองตลาดแร่หายากในช่วงก่อนยุค 1980 แต่ต้นทุนแรงงานที่ลดลงในต่างประเทศและแรงกดดันด้านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่น้อยลง ทำให้อุตสาหกรรมแร่หายากขยายไปยังนอกสหรัฐ