ข้อมูลจากคริปโทควอนท์ (CryptoQuant) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดระบุว่า วอลุ่มการซื้อขายบิตคอยน์ในเดือนส.ค.ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอปัจจัยที่จะสนับสนุนการกลับเข้าลงทุนในตลาดอีกครั้ง
รายงานวิเคราะห์ของคริปโทควอนท์ระบุว่า ข้อมูลจากตลาดสปอตและตลาดอนุพันธ์ต่างก็แสดงให้เห็นว่า วอลุ่มการซื้อขายบิตคอยน์ในทุกแพลตฟอร์มในเดือนส.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2561 และเผชิญกับความยากลำบากที่จะฟื้นตัว
ณ วันที่ 26 ส.ค. วอลุ่มการซื้อขายบิตคอยน์บนทุกแพลตฟอร์มอยู่ที่ระดับ 129,307 BTC ส่วนในวันที่ 12 ส.ค. วอลุ่มการซื้อขายบิตคอยน์ดิ่งลงสู่ระดับ 112,317 BTC ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2561 ส่งผลให้ขณะนี้วอลุ่มการซื้อขายบิตคอยน์ร่วงลงไปแล้วถึง 94% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 3.5 ล้าน BTC
จูลิโอ โมเรโน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของคริปโทควอนท์เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า "วอลุ่มการซื้อขายบิตคอยน์ลดลงอย่างต่อเนื่องและทำให้บิตคอยน์เข้าสู่ภาวะตลาดหมี เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยแห่เทขาย สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงปี 2565 บนแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี แม้บิตคอยน์ยังคงอยู่ในภาวะตลาดหมี แต่เราคาดว่าวอลุ่มการซื้อขายอาจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง"
ข้อมูลจากคอยน์ เมทริกส์ (Coin Metrics) ระบุว่า ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 57% ในปีนี้ และยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 26,000 ดอลลาร์ ส่วนในวันนี้เวลาประมาณ 10.35 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น 90 ดอลลาร์ หรือ +0.35% แตะที่ 26,061 ดอลลาร์
ทั้งนี้ แม้ราคาบิตคอยน์เผชิญกับความผันผวนท่ามกลางความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งแตะ 50,000 ดอลลาร์ในปีนี้ และ 120,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า