ราคาหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.2% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ตลาดนิวยอร์กในวันอังคาร (29 ส.ค.) และยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องในช่วงเช้านี้ หลังจากอินวิเดียประกาศเป็นพันธมิตรกับกูเกิล เพื่อเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายชิปที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นอินวิเดียปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงขณะนี้ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปแล้วถึง 234% ส่งผลให้อินวิเดียทำผลงานโดดเด่นที่สุดในบรรดาบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 รองลงมาคือหุ้นของบริษัทเมตา แพลตฟอร์ม ซึ่งปรับตัวขึ้น 148%
นายเจนเซ่น หวง ซีอีโอของอินวิเดียได้เข้าร่วมการประชุมของบริษัทกูเกิลเมื่อวานนี้ เพื่อทำข้อตกลงด้าน AI ระหว่างอินวิเดียและกูเกิล โดยการเป็นพันธมิตรของทั้งสองบริษัทจะช่วยให้ลูกค้าธุรกิจคลาวด์ของกูเกิลสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น H100 ของอินวิเดียได้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา อินวิเดียเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.351 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.122 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ อินวิเดียคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2567 จะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.261 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่ายอดขายจะพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 170% ในไตรมาสดังกล่าวเมื่อเทียบเป็นรายปี