สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเจฟฟรีย์ แซคส์ นักเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เตือนว่า สหรัฐควรยุตินโยบายบางประการที่ต้องการชะลอการเติบโตของจีน
ในบทวิเคราะห์ที่เผยแพร่ในวารสารนโยบายสาธารณะ เพิร์ลส์ แอนด์ อิริเทชันส์ (Pearls and Irritations) นายแซคส์เน้นย้ำว่า บางมาตรการทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ต่อต้านจีนนั้นถือเป็นการละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) และเป็นอันตรายต่อความเจริญรุ่งเรืองของโลก
นายแซคส์ระบุในบทความว่า "นโยบายต่อต้านจีนมาจากแผนกลยุทธ์ที่คุ้นเคยในการกำหนดนโยบายของสหรัฐ จุดมุ่งหมายคือเพื่อกีดกันการแข่งขันทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีจากคู่แข่งรายใหญ่"
นายแซคส์เสริมว่า จีนแตกต่างจากญี่ปุ่นสมัยช่วงทศวรรษ 1990 ที่ต้องพึ่งพาสหรัฐในด้านความมั่นคงและปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ จีนมีความยืดหยุ่นมากกว่าเมื่อต้องเผชิญกับการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ
"ผมเชื่อว่าจีนสามารถเพิ่มการส่งออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ ผ่านนโยบายต่าง ๆ เช่น การขยายโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" นายแซคส์ระบุ
ทั้งนี้ นายแซคส์เสริมว่า "การประเมินของผมคือ ความพยายามของสหรัฐที่จะควบคุมจีนไม่เพียงแต่เป็นความผิดพลาดในหลักการเท่านั้น แต่ยังมีชะตากรรมที่จะต้องล้มเหลวในทางปฏิบัติอีกด้วย"