นายโทห์รุ ซาซากิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดญี่ปุ่นของธนาคารเจพีมอร์แกน เชสคาดการณ์ว่า การทรุดตัวของค่าเงินเยนยังไม่สิ้นสุด แม้มีกระแสคาดการณ์ว่า ดอลลาร์อาจจะชะลอการแข็งค่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
นายซาซากิคาดการณ์ว่า เงินอาจจะทรุดตัวลงแตะระดับ 152 เยนต่อดอลลาร์ในปีนี้ และแตะระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์ในปี 2567 และต่อให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยกเลิกนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ในปีนี้ ก็จะไม่ช่วยให้เงินเยนฟื้นตัวมากนักในระยะยาว
ทั้งนี้ นายซาซากิมองว่า ยังคงเป็นเรื่องยากที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือฉุดเงินเฟ้อให้ลดลง ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อเงินเยน โดยนายซาซากิเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความแม่นยำในการคาดการณ์ทิศทางของดอลลาร์/เยนที่แม่นยำที่สุดจากการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กในไตรมาสที่แล้ว
"เงินเยนมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นหนึ่งในค่าเงินที่อ่อนแอที่สุดในปีหน้า และผมก็ไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร" นายซาซากิกล่าว โดยเขาเป็นอดีตเทรดเดอร์ของ BOJ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศในช่วงทศวรรษที่ 1990
เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินของ 10 ประเทศคู่ค้าในปีนี้ เนื่องจาก BOJ ยังคงยึดมั่นในนโยบายผ่อนคลายการเงิน ในขณะที่ธนาคารกลางของประเทศอื่น ๆ พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดย BOJ ตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% นับตั้งแต่ปี 2559 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐอยู่ที่ระดับ 5.5% ในขณะนี้
ส่วนในสัปดาห์นี้ เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ส่งผลให้นายมาซาโตะ คันดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นออกมาเตือนเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกำลังเตรียมใช้มาตรการต่าง ๆ ที่จำเป็น หากเงินเยนทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
"อัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไปอีกเป็นเวลานาน ด้าน BOJ อาจจำเป็นจะต้องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านลบอื่น ๆ ต่อเศรษฐกิจ แต่การทำเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อความนิยมของคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งก็จะเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่ยากลำบาก" นายซาซากิกล่าว