ธนาคารกลางสิงคโปร์ได้สั่งการให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ทำการทบทวนความเชื่อมโยงใด ๆ ก็ตามระหว่างบุคคลและคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการฟอกเงิน โดยธนาคารกลางได้ส่งหนังสือไปยังผู้บริหารของสถาบันการเงินทุกแห่งในสิงคโปร์ เพื่อให้ทำการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยหรือผิดปกติของประชาชน
ธนาคารกลางสิงคโปร์ยังระบุด้วยว่า ธนาคารพาณิชย์จะต้องทำการตรวจสอบแนวทางการจัดการกับบุคคล 34 รายซึ่งรวมถึงผู้ต้องสงสัย 10 รายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสิงคโปร์ได้ยึดทรัพย์สินมูลค่า 125 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากบัญชีธนาคารที่ต้องสงสัยว่ามีการฟอกเงิน โดยบัญชีดังกล่าวเปิดไว้กับธนาคารสาขาของแบงก์ จูเลียส แบร์ (Bank Julius Baer) และธนาคารเครดิต สวิสในสิงคโปร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าให้การต่อศาลสูงของสิงคโปร์ในวันอังคาร (5 ก.ย.) โดยระบุว่า ตำรวจได้ยึดเงินมูลค่าราว 92 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และ 33 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากบัญชีธนาคารเครดิต สวิส และแบงก์ จูเลียส แบร์ ตามลำดับ ซึ่งเป็นบัญชีที่ถือครองโดยนายวัง ชุยหมิง ซึ่งมีสัญชาติตุรกี และเป็น 1 ใน 10 ผู้ต้องสงสัยในคดีฟอกเงิน
คำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนยังคงรอข้อมูลจากสถาบันการเงินอีก 5 แห่งที่ไม่ระบุชื่อ โดยทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้น รวมถึงทองคำแท่ง, กระเป๋าแบรนด์เนมที่ผลิตโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง, เครื่องประดับ, อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์หรู
ทั้งนี้ พฤติกรรมการฟอกเงินที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างได้สร้างความเสียหายต่อสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางการเงินที่มั่งคั่งของเอเชีย และยังทำให้เกิดความกังวลว่ามีช่องโหว่ในระบบการเงินของสิงคโปร์หรือไม่