ตลาดการเงินยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดของจีน โดยล่าสุดดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของจีนขยับขึ้นเพียง 0.1% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.ลดลง 3.0% โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า จีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันของภาวะเงินฝืด และอาจทำให้รัฐบาลจีนเร่งใช้มาตรการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐในวันพุธที่ 13 ก.ย.นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมรอบนี้ แต่เพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
-- เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้า 10 ประเทศซึ่งรวมถึงสหรัฐในช่วงเช้านี้ หลังจากนายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวกับหนังสือพิมพ์โยมิอูริ ชิมบุนว่า ภายในสิ้นปีนี้ BOJ อาจมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินว่าอัตราค่าจ้างในญี่ปุ่นจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ โดยอัตราค่าจ้างเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้ BOJ ตัดสินใจว่าจะยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-easy policy) หรือไม่
การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายอุเอดะเป็นปัจจัยหนุนเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ระดับ 146.67 เยนต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย โดยความตึงเครียดล่าสุดมาจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจที่จีนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้อาจทำให้จีนไม่สามารถที่จะโจมตีไต้หวันได้
-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดการเงินทั่วโลกวิตกกังวลว่าจีนอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ในปีนี้
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 15 ก.ย. สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., อัตราว่างงานเดือนส.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค.
-- ตลาดรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ย.นี้ ขณะที่แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า หลังการประชุมดังกล่าว ECB จะส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.2567 และ ECB จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในทุกๆ ไตรมาส จนถึงปี 2568
-- หน่วยกู้ภัยของโมร็อกโกยังคงเดินหน้าค้นหาผู้ที่สูญหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 6.8 แมกนิจูดซึ่งเกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ (8 ก.ย.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2,122 ราย และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากถึง 2,421 รายในขณะนี้
โมร็อกโกเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 60 ปี ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างสาหัส โดยมีประชาชนขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ที่พักอาศัย และต้องอาศัยนอนริมถนนเป็นคืนที่ 3 แล้ว ขณะที่รัฐบาลโมร็อกโกกำลังขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศ และจะให้ความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ตามความจำเป็น