บริษัทเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ เตรียมยื่นหนังสือถึงหน่วยงานกำกับดูแลด้านแรงงานของออสเตรเลีย เพื่อขอให้ทางหน่วยงานยื่นมือเข้ามาแก้ไขข้อพิพาทกับสหภาพแรงงานที่โรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในออสเตรเลีย เนื่องจากคนงานบางส่วนยังคงหยุดงานประท้วงอย่างต่อเนื่อง
โฆษกของเชฟรอนระบุว่า ในวันนี้ (11 ก.ย.) ทางบริษัทจะยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก (Fair Work Commission) แถลงการเจรจาต่อรองเพื่อหาข้อยุติที่โรงงานปลายน้ำกอร์กอนและวีทสโตน ซึ่งจะเป็นการร้องเรียนเพิ่มเติมหลังจากที่เคยยื่นไปแล้วเกี่ยวกับโครงการวีทสโตน ซึ่งการผละงานประท้วงดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.ย.) ส่งผลให้ราคาก๊าซ LNG พุ่งสูงขึ้น
ภายใต้กฎระเบียบใหม่ที่มีผลบังคับเมื่อเดือนมิ.ย. หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีข้อพิพาทด้านการจ้างงานในออสเตรเลียสามารถยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการเพื่อขอให้แถลงการเจรจาต่อรองในกรณีที่ข้อพิพาทเป็นเรื่องยากที่จะหาข้อยุติ หลังจากที่พวกเขาได้จัดการเจรจาเป็นเวลาอย่างน้อย 9 เดือนหรือภายใต้เงื่อนไขอื่น ๆ โดยหากคำร้องได้รับอนุมัติ คณะกรรมการจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขการจ้างงานได้
ทั้งนี้ การประท้วงบางส่วนประกอบด้วยการหยุดงาน และการปฏิเสธไม่ทำงานล่วงเวลา และบางหน้าที่ โดยสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรนอกชายฝั่ง (Offshore Alliance) ซึ่งเป็น1 ใน 2 กลุ่มสำคัญของสหภาพแรงงาน กล่าวว่า พวกเขามีแผนจะหยุดงานเต็มรูปแบบเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. หากไม่อาจบรรลุข้อตกลงได้