นายอัลเฟรโด ปาสควาล รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์อาจยกเลิกการกำหนดเพดานราคาข้าวภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกษตรเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวทั่วประเทศ
นายปาสควลแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การกำหนดเพดานราคาข้าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นมาตรการที่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น พร้อมเสริมว่า ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ยังคงหารือกับประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อย่างเวียดนาม เกี่ยวกับการนำเข้าข้าว
รายงานระบุว่า เงินเฟ้อจากราคาข้าวในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นในอัตราสูงที่สุดในรอบเกือบ 5 ปีในเดือนส.ค. ซึ่งตอกย้ำถึงภาวะวิกฤตข้าวของฟิลิปปินส์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2561 และนำไปสู่การยกเลิกข้อจำกัดในการนำเข้าที่ดำเนินมานานถึง 20 ปี ขณะที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนีย ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตรด้วยนั้น ได้กำหนดเพดานราคาข้าวเมื่อวันที่ 5 ก.ย. เพื่อควบคุมต้นทุนการค้าปลีกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ท่ามกลางรายงานการกักตุนของผู้ค้า
นายปาสควาลระบุว่า ผู้ค้าปลีกประมาณ 95% สามารถปฏิบัติตามมาตรการกำหนดเพดานราคาได้ และกระทรวงฯ ได้เตือนผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของสำนักงานสื่อสารของประธานาธิบดีมาร์กอสระบุว่า นายลีโอ เซบาสเตียน ปลัดกระทรวงเกษตรคาดว่า การผลิตข้าวในประเทศจะอยู่ในระดับสูงกว่า 11 ล้านเมตริกตันในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 "และหากไม่มีพายุไต้ฝุ่นในช่วงเดือนที่เหลือของปี เราคาดว่าผลผลิตจะอยู่ที่ 20 ล้านตัน"
ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวใกล้เคียงกับผลผลิตปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 19.76 ล้านเมตริกตัน ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ผลผลิตเพิ่มขึ้น 3% แตะที่ระดับ 9 ล้านเมตริกตัน