นายรัสเซลล์ ฮาร์ดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไวทอล (Vitol) ซึ่งเป็นบริษัทค้าน้ำมัน ระบุว่า การที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียจะทำให้กลุ่มบริกส์ (BRICS) ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
"เมื่อพิจารณาตลาดน้ำมันในปัจจุบัน การคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตกเริ่มส่งผลกระทบแล้ว โดยทำให้รายได้ลดน้อยลง ทำให้ราคาสินค้าของรัสเซียลดลง" นายฮาร์ดีกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนก.พ. 2565 กลุ่ม G7 ก็ได้ออกกลไกลจำกัดราคาน้ำมัน ซึ่งจำกัดรายได้สำหรับรัสเซีย เพื่อป้องกันรัสเซียจากการนำเงินดังกล่าวไปใช้ในสงครามยูเครน แต่ขณะเดียวกันก็ยังเปิดทางให้รัสเซียสามารถส่งออกน้ำมันไปยังตลาดโลกได้ต่อไป
นอกจากนั้น สหภาพยุโรป (EU) ยังออกมาตรการคว่ำบาตรในเดือนมิ.ย. เพื่อจำกัดการขาย จัดหา และส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีบางรายการไปยังประเทศที่ 3 ในฐานะตัวกลางให้กับรัสเซีย และในเดือนพ.ค. กลุ่ม G7 ประกาศเจตจำนงในการจำกัดการค้าเพชรรัสเซีย อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรเหล่านี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการ ซึ่งนายฮาร์ดีมองว่าเป็นผลลัพธ์ "เชิงลบ"
"การคว่ำบาตรดังกล่าวอาจทำให้ประเทศในกลุ่มบริกส์มีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มตรงกันข้ามกับกลุ่มการเมืองชาติตะวันตก" นายฮาร์ดีกล่าว
"ผมคิดว่ากรณีดังกล่าวส่งผลในเชิงลบอย่างยิ่ง" นายฮาร์ดีกล่าว โดยเป็นการแสดงความกังวลสำหรับช่วง 1 ? 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากกลุ่มเทรดเดอร์รัสเซียกำลังใช้โอกาสดังกล่าวในการกระชับความสัมพันธ์ด้านอุปทานพลังงานระหว่างรัสเซียกับประเทศในกลุ่มบริกส์