สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาเลเซีย ส่งสัญญาณว่า มาเลเซียอาจพิจารณาเก็บภาษีเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐ และบรรลุเป้าหมายในการลดการขาดดุลทางการคลังลงเกือบครึ่งหนึ่งภายในปี 2568
"มาเลเซียจะขยายฐานภาษี กระจายแหล่งที่มาของภาษี ตลอดจนยกระดับการจัดเก็บภาษีผ่านเทคโนโลยี" นายอันวาร์กล่าวต่อรัฐสภาในวันนี้ (11 ก.ย.) ในระหว่างการเปิดเผยการทบทวนระยะครึ่งรอบของแผนเศรษฐกิจปี 2564-2568
นายอันวาร์เสริมว่า ในบรรดาภาษีใหม่เตรียมบังคับใช้ในปี 2567 ก็คือภาษีกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gains Tax) แต่ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดใด ๆ
รายงานระบุว่า รัฐบาลมาเลเซียยังคงยึดมั่นแผนการลดการขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 3.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2568 เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างน้อย 5% ภายในกรอบระยะเวลา 5 ปีที่ระบุไว้ในนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย ฉบับที่ 12
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อมุ่งปกป้องเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้การขาดดุลขยายเป็น 6.4% ของ GDP ในปี 2564 ก่อนจะลดลงเหลือ 5.6% ในปี 2565 โดยเป็นช่วงเดียวกับที่รัฐบาลเพิ่มเพดานหนี้จาก 60% ของ GDP เป็น 65%
"ผมคิดว่าเราจะพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ในการเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะมาจากภาษีทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม" นายราฟิซี รามลี รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจกล่าว ทั้งนี้ รัฐบาลได้สื่อสารมาโดยตลอดถึงแผนการเริ่มเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้นในปีหน้า
นายอันวาร์เน้นย้ำว่า "ปัจจุบัน รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการเสริมสร้างความยั่งยืนทางการคลัง และตระหนักถึงการเพิ่มความพยายามปรับปรุงการจัดการหนี้สิน เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการขาดดุลทางการคลังในปี 2568"