รายงานระบุว่า ยูบีเอสเดินหน้าลดตำแหน่งงานที่มีบทบาททับซ้อนกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการปรับลดเพิ่มเติมจนถึงเดือนพ.ย.
ยูบีเอสเตรียมปลดพนักงานหลายร้อยตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงผู้จัดการฝ่ายความสัมพันธ์ในฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทีมที่มาจากธนาคารเครดิตสวิส อย่างไรก็ตาม ยูบีเอสยังไม่ได้สรุปจำนวนพนักงานที่จะถูกปลด แต่ยูบีเอสวางแผนที่จะเก็บนายธนาคารที่ดูแลลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูงส่วนใหญ่ในออสเตรเลียและอินเดียไว้ในขณะนี้
นอกจากนี้ ยูบีเอสกำลังเผชิญกับปัญหาความเชื่อมั่นและระดับของกิจกรรมของลูกค้าที่ลดลงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในไตรมาสที่ 2/2566 กำไรก่อนหักภาษีของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของยูบีเอสลดลง 9% เมื่อเทียบรายปี
เมื่อปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนขยายตัวเพียง 3% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอที่สุดในรอบหลายทศวรรษของจีน เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลกระทบต่อประเทศจีน และเศรษฐกิจจีนไม่ได้ฟื้นตัวแข็งแกร่งอย่างที่เคยคาดการณ์เอาไว้ หลังการเปิดประเทศ ส่วนดัชนีหุ้นจีนก็มีแนวโน้มลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3
อย่างไรก็ดี โฆษกของยูบีเอสปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่สิ้นสุดการเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิตสวิสในเดือนมิ.ย. ยูบีเอสได้เปิดเผยเป้าหมายหลักในการควบรวมกิจการ ซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างงาน 3,000 ตำแหน่งในสวิตเซอร์แลนด์ และลดต้นทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ