นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชสกล่าวในการประชุมด้านการเงินซึ่งจัดขึ้นที่รัฐนิวยอร์กในวันจันทร์ (11 ก.ย.) ว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ดูเหมือนว่าอยู่ในภาวะที่ดี แต่การเชื่อว่าภาวะเช่นนี้จะยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายปีนั้น ถือเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์
"งบดุลบัญชีของกลุ่มผู้บริโภคมีความแข็งแกร่ง และค่าจ้างที่ปรับตัวสูงขึ้นก็เป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในขณะนี้ แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะเผชิญความเสี่ยงในวันข้างหน้า โดยปัจจัยที่น่ากังวลเป็นอย่างมากนั้น รวมถึงการที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ พยายามควบคุมสภาพคล่องผ่านโครงการคุมเข้มด้านการเงินเชิงปริมาณ รวมทั้งสงครามในยูเครน และการที่รัฐบาลทั่วโลกใช้จ่ายเงินจำนวนมาก"
"ดังนั้น การพูดว่าสถานะของผู้บริโภคซึ่งมีความแข็งแกร่งในขณะนี้ จะแข็งแกร่งต่อเนื่องไปอีกหลายปีนั้น จึงเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์" นายไดมอนกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐซึ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ชะลอตัวลงในปีนี้แล้วตามการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญหลายคนซึ่งรวมถึงนายไดมอน โดยในปีที่แล้วเขาเตือนว่า ทั่วโลกจะเผชิญกับเฮอริเคนทางเศรษฐกิจ โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางต่าง ๆ และผลกระทบของสงครามในยูเครน อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัว ซึ่งทำให้มีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากขึ้นคาดการณ์ว่าสหรัฐอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
"ภาคธุรกิจอาจมีความรู้สึกดีเพราะพวกเขามองที่ผลประกอบการในปัจจุบัน แต่หลายสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และเราไม่รู้ว่าผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอีก 12 หรือ 18 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร"
"ในขณะที่เจพีมอร์แกน และธนาคารรายอื่น ๆ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปล่อยกู้เป็นเวลาหลายปีเพราะอัตราการผิดนัดชำระหนี้อยู่ในระดับต่ำมากนั้น เรากลับพบว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์และการปล่อยกู้เพื่อซื้อรถยนต์ให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ" นายไดมอนกล่าว