นายเจอร์รี่ ซามบูอากา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย กล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคาร (12 ก.ย.) ว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาแผนที่จะห้ามขายสินค้าบนโซเชียลมีเดีย ภายใต้กฎระเบียบการค้าใหม่
รายงานระบุว่า บรรดารัฐมนตรีของอินโดนีเซียได้ออกมาแสดงความกังวลหลายต่อหลายครั้งว่า กลุ่มผู้ค้าบนสังคมออนไลน์ใช้วิธีการตั้งราคาจำกัดคู่แข่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดปกติทั่วไปของประเทศที่ไม่ได้มีหน้าร้านบนสังคมออนไลน์
ทั้งนี้ กฎระเบียบทางการค้าในปัจจุบันไม่ได้กำหนดกรอบที่ครอบคลุมถึงการทำธุรกรรมซื้อขายโดยตรงบนสังคมออนไลน์
"โซเชียลมีเดียและการขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียนั้นไม่สามารถเอามารวมกันได้" นายซามบูอากา กล่าว พร้อมยกตัวอย่างกรณีที่บรรดาผู้ค้าใช้ฟีเจอร์การไลฟ์สดการขายสินค้าผ่านติ๊กต๊อก (TikTok)
นายซามบูอากาเสริมว่า "การแก้ไขกฎระเบียบทางการค้าใหม่ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จะห้ามสิ่งนี้อย่างเด็ดขาดและชัดเจน" ขณะเดียวกัน ทางติ๊กต๊อกได้ออกมาตอบโต้ว่า การแยกโซเชียลมีเดียและการขายสินค้าออนไลน์ออกมาเป็นแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะเป็นการขัดขวางนวัตกรรม และหวังว่ารัฐบาลจะสร้างสนามการแข่งขันที่เท่าเทียมให้กับติ๊กต๊อก
ตัวแทนของติ๊กต๊อกอินโดนีเซียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (13 ก.ย.) ว่า "การแบนนี้จะส่งผลเสียต่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียด้วย"
ก่อนหน้านี้ ติ๊กต๊อก ซึ่งมีผู้ขายสินค้ามากกว่า 2 ล้านรายในอินโดนีเซีย ระบุว่า บริษัทไม่มีแผนเปิดตัวธุรกิจข้ามพรมแดนในประเทศ หลังรัฐบาลแสดงความกังวลว่า การผลักดันอีคอมเมิร์ซขอติ๊กต๊อกจะทำให้สินค้าจีนไหลทะลักเข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ด้านเฟซบุ๊ก ซึ่งมีฟีเจอร์การขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม ยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว