สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยในวันนี้ (13 ก.ย.) ว่า การขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส จนถึงสิ้นปี 2566 จะส่งผลให้ตลาดน้ำมันขาดดุลอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสที่ 4/2566 ขณะที่ IEA ยังคงคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะขยายตัวในปีนี้และปีถัดไป
รายงานระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เริ่มควบคุมอุปทานในปี 2565 เพื่อกระตุ้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นทะลุ 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปีนี้ในเดือนนี้ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจรวม 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นปีนี้ กลุ่มโอเปกพลัสได้ปรับลดกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ซึ่งจำนวนดังกล่าวได้รับการชดเชยจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำรายใหญ่ที่อยู่นอกโอเปก เช่น สหรัฐ บราซิล และอิหร่านที่ยังคงเผชิญมาตรการคว่ำบาตร
IEA ระบุในรายงานน้ำมันประจำเดือนว่า "นับแต่ตั้งแต่เดือนก.ย. การลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนอุปทานอย่างมีนัยสำคัญตลอดไตรมาสที่ 4/2566" ขณะเดียวกัน IEA กล่าวว่า หากไม่มีการปรับลดการผลิตน้ำมันในต้นปีหน้า จะส่งผลให้มีอุปทานส่วนเกิน อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความผันผวนอีกครั้งท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง