ธนาคารกลางสิงคโปร์สั่งห้ามไม่ให้บรรดาผู้ก่อตั้งบริษัททรี แอโรว์ส แคปิตอล (Three Arrows Capital หรือ 3AC) ทำธุรกรรมในตลาดสิงคโปร์เป็นเวลา 9 ปี โดย 3AC เป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสิงคโปร์ที่เน้นลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและประสบปัญหาล้มละลาย
3AC เป็นบริษัทคริปโทฯ รายใหญ่รายแรกที่ล้มละลายในปี 2565 หลังจากการล่มสลายของเหรียญลูนาและเทอร์รายูเอสดีในเดือนพ.ค.ปีดังกล่าว โดย 3AC ได้ยื่นล้มละลายต่อศาลในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุในคำสั่งซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันพุธนี้ (13 ก.ย.) โดยสั่งห้ามไม่ให้นายจู ซู และนายไคล์ ลิฟวิงส์ตัน เดวีส์ ผู้ก่อตั้ง 3AC ทำธุรกรรมใด ๆ ที่ถูกกำหนดไว้ตามกฎระเบียบ และห้ามมีส่วนในการบริหารจัดการใด ๆ ในบริษัทที่ให้บริการด้านตลาดทุนในสิงคโปร์
นายลู ซิว ยี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าวว่า "ผู้บริหารอาวุโสของ 3AC จะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมความเสี่ยง เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า นายจูและนายเดวีส์พำนักอยู่ที่ใด
3AC เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ตลาดคริปโทฯ ผันผวนอย่างหนัก โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 บริษัทวอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่บริษัท 3AC ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่จะต้องจ่ายให้กับวอยเอเจอร์มีจำนวนมากถึง 670 ล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า ศาลรัฐนิวยอร์กได้สั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัท 3AC และเข้าสู่กระบวนการตัดขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำสั่งศาล
บริษัทคริปโทฯ จำนวนมากได้รับความเสียหายจากการที่เหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST ทรุดตัวลงจนหลุดมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนและทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดคริปโทฯ ด้วย