นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดแห่งแคนาดาระบุในวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) ว่า แคนาดาอาจจัดเก็บภาษีใหม่กับเครือข่ายธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ หากไม่คิดแผนการเพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร
ทั้งนี้ นายกฯทรูโดระบุว่า รัฐบาลแคนาดาจะเรียกบรรดาผู้นำเครือข่ายธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่เข้าพบพร้อมแผนการแก้ไขราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น โดยกำหนดเส้นตายในวันที่ 9 ต.ค.นี้ หลังชาวแคนาดาต้องเผชิญความยากลำบากอย่างต่อเนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อสูง
"เครือข่ายธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ทำกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ แต่กำไรเหล่านั้นไม่ควรได้มาจากผู้คนที่กำลังเผชิญความยากลำบากในการหาเลี้ยงครอบครัว" นายกฯทรูโดกล่าว
นายกฯทรูโดระบุว่า รัฐบาลแคนาดาจะขอให้บริษัทร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุด 5 แห่งได้แก่ ลอบลอว์ คอส จำกัด (Loblaw Cos. Ltd), เมโทร อิงค์ (Metro Inc), เอ็มไพร์ โค จำกัด (Empire Co. Ltd), วอลมาร์ท อิงค์ (Walmart Inc) และคอสต์โค โฮลเซล คอร์ป (Costco Wholesale Corp) คิดแผนแก้ไขราคาสินค้าภายในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า
"หากแผนการของบริษัทเหล่านี้ไม่สามารถช่วยบรรเทาความยากลำบากของชนชั้นกลางและผู้คนที่ทำงานหนัก รัฐบาลจะดำเนินการเพิ่มเติมซึ่งอาจหมายรวมถึงการออกมาตรการด้านภาษี" นายกฯทรูโดระบุ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเงินเฟ้อจากราคาของชำ ปรับตัวขึ้น 8.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงร้อนแรงกว่าเงินเฟ้อโดยรวม