นายพาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า PBOC จะเพิ่มความพยายามในการสร้างเสถียรภาพด้านการค้าและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสำหรับบริษัทต่างชาติ ซึ่งนับเป็นการให้คำมั่นสัญญาครั้งล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ นายพานได้เน้นย้ำเจตนารมณ์ดังกล่าวในงานเสวนาเมื่อวันจันทร์ (18 ก.ย.) โดยมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากบริษัทต่างชาติชั้นนำหลายแห่งเข้าร่วมด้วย ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, ดอยซ์แบงก์, บีเอ็นพี พาริบาส์, ยูบีเอส กรุ๊ป และเทสลา
นายพานกล่าวว่า ทางการจีนจะพิจารณาการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการลงทุนและการค้าต่างประเทศ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจีนจะยังคงปรับสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนให้เอื้ออำนวยต่อบริษัทต่างชาติ นอกจากนี้ PBOC จะผลักดันให้มีการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการบริการด้านการเงิน และช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อการลงทุน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากที่จีนยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนก็ได้ออกมาให้คำมั่นสัญญาในปีนี้ว่า จีนจะเปิดพื้นที่ให้บริษัทต่างชาติเข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจของจีน โดยเป้าหมายดังกล่าวริเริ่มในเดือนมี.ค.โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ซึ่งต้องการดึงดูดบริษัทต่างชาติด้วยการให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าเปิดประเทศ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของบริษัทต่างชาติที่มีต่อจีนนั้น ถดถอยลงอย่างมาก โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความตึงเครียดระหว่างจีนและชาติตะวันตก รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของการใช้กฎระเบียบต่าง ๆ ของจีน โดยผลสำรวจเมื่อต้นปีนี้ซึ่งจัดทำโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศจีนระบุว่า จีนไม่ได้อยู่ใน 3 ประเทศแรกที่บริษัทสหรัฐต้องการจะเข้ามาลงทุน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีที่จีนหลุดจาก 3 อันดับประเทศแรกในมุมมองของบริษัทสหรัฐ
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม จีนไม่ลดละความพยายามที่จะใช้มาตรการเพื่อดึงดูดบริษัทต่างชาติ โดยในเดือนก.ค.ปีนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติอย่างเท่าเทียมกับบริษัทที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ