นางโจเซฟิน ทิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการติดต่อสื่อสารสิงคโปร์กล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ (18 ก.ย.) ว่า สิงคโปร์จะยืนยันตัวตนผู้โดยสารผ่านระบบข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลตามจุดต่าง ๆ ตั้งแต่จุดโหลดสัมภาระไปจนถึงการตรวจคนเข้า-ออกเมือง และการขึ้นเครื่องบิน ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2567
"วิธีการดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางซ้ำ ๆ ในขั้นตอนแสดงตัวตนต่าง ๆ" นางทิโอกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่สิงคโปร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขนักเดินทางเข้าสู่สิงคโปร์จะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดภายในปีหน้า และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น
ปัจจุบันสิงคโปร์กำลังสร้างอาคารรับรองผู้โดยสารแห่งที่ห้าในสนามบินชางงี ขณะเดียวกันก็คาดว่า รถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมโยงสิงคโปร์กับรัฐยะโฮร์ทางภาคใต้ของมาเลเซียจะพร้อมใช้งานในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
"ระบบการตรวจคนเข้า?ออกเมืองของเราจะต้องรองรับปริมาณนักเดินทางระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าพึงพอใจ รวมถึงรับประกันความปลอดภัยของเรา" นางทิโอกล่าว
สนามบินชางงีได้รับการจัดอันดับให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยรองรับผู้โดยสาร 5.12 ล้านรายในเดือนมิ.ย. ซึ่งทะลุ 5 ล้านรายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาด โดยตัวเลขดังกล่าวซึ่งคิดเป็น 88% ของจำนวนผู้โดยสารในเดือนมิ.ย. 2562 แสดงให้เห็นว่า การเดินทางระหว่างประเทศของสิงคโปร์นั้นฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน