ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดวอลล์สตรีทมีแนวโน้มเปิดตลาดในแดนบวก หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.9%, ดัชนี S&P500 ร่วงลง 2.9% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 3.6% อันเนื่องมาจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 (ขั้นสุดท้าย), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนส.ค. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค.
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดัชนี PCE เดือนส.ค.อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
-- ตลาดจับตาตลาดการท่องเที่ยวของจีนในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือ Mid-Autumn Festival ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ก.ย.จนถึงวันที่ 6 ต.ค. และเป็นช่วงวันหยุดยาวของจีน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะมีชาวจีนกว่า 21 ล้านคนเดินทางด้วยเที่ยวบินในช่วงวันหยุดดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นการใช้จ่ายและทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้น
-- Retool บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ธุรกิจของสหรัฐรายงานว่า ลูกค้าในระบบคลาวด์จำนวน 27 รายได้รับผลกระทบจากกระบวนการลักลอบเข้าสู่บัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระบวนการดังกล่าวได้เริ่มขึ้นจากการส่งข้อความหลอกลวง (SMS phishing) เพื่อล้วงรายละเอียดข้อมูลการล็อกอินจากพนักงานของ Retool จนสามารถเข้าสู่ระบบภายในของบริษัทได้ และหลังจากนั้นผู้โจมตีก็สามารถเข้าควบคุมบัญชีของลูกค้าได้ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทด้านคริปโทเคอร์เรนซี
Retool ได้เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ลูกค้าของบริษัทในระบบคลาวด์จำนวน 27 รายได้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่เริ่มจากการส่งข้อความหลอกลวงไปยังกลุ่มเป้าหมาย (targeted SMS-based phishing attack) ซึ่งก็คือกลุ่มพนักงานของบริษัท Retool
-- รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมที่จะขยายระบบบริการวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดขั้นตอนในการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ท่ามกลางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว หลังจากสิ้นสุดมาตรการควบคุมชายแดนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
กระทรวงการต่างประเทศได้เริ่มให้บริการขอวีซ่าออนไลน์ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาใน 11 ประเทศและภูมิภาค โดยจีนได้ถูกเพิ่มเข้าสู่ระบบดังกล่าวในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ขอวีซ่าพำนักระยะสั้นได้โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในประเทศของตนแต่อย่างใด