สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า บริษัทมูราตะ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัดของญี่ปุ่นซึ่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์นั้น เพิ่งเสร็จสิ้นการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทย โดยจะเริ่มต้นเดินสายการผลิตในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานธุรกิจเพื่อผลักดันการเติบโต แม้ว่าบริษัทมีกำไรลดน้อยลงก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทมูราตะมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินหลายหมื่นล้านเยนภายในปี 2571 เพื่อบรรลุเป้าหมายการผลิตอย่างเต็มศักยภาพที่โรงงานแห่งใหม่นี้ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดลำพูน
โรงงานแห่งใหม่นี้จะใช้ในการผลิตตัวเก็บประจุหลายชั้นที่ผลิตจากเซรามิก (MultiLayer Ceramic Capacitors - MLCC) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในโทรศัพท์และยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยมูราตะเป็นผู้นำโลกในตลาด MLCC โดยครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40%
"เราเชื่อว่า MLCC จะเติบโตในระยะยาว" นายโนริโอะ นากาจิมะ ประธานบริษัทมูราตะกล่าวในพิธีเปิดโรงงานเมื่อวันจันทร์ (25 ก.ย.) พร้อมระบุว่า จะจ้างพนักงาน 2,000 ตำแหน่ง
รายงานระบุว่า มูราตะจะผลิต MLCC ในไทยเป็นครั้งแรกที่โรงงานแห่งนี้ โดยสมาร์ตโฟนแต่ละเครื่องอาจต้องใช้ตัวเก็บประจุดังกล่าวมากถึง 1,000 ชิ้น โดย MLCC สร้างรายได้ให้กับมูราตะกว่า 40% จากยอดขายรวมทั้งหมด
การสร้างโรงงานในไทยของมูราตะเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มบริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัทเหล่านี้ต้องการหาฐานการผลิตที่มีเสถียรภาพเพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน
รายงานจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ระบุว่า การลงทุนโดยตรงในภาคอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อปี 2565 ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.011 แสนล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้น 90% จากปี 2564 และมากกว่าในช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดในปี 2562
อนึ่ง กำไรของกลุ่มบริษัทมูราตะแตะจุดสูงสุดที่ 3.141 แสนล้านเยนในปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2565 ซึ่งเวลานั้นยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกแตะ 1.4 พันล้านเครื่อง แต่กำไรลดลงแตะ 2.536 แสนล้านเยนในปีงบการเงินที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดสมาร์ตโฟนหดตัวลงเหลือ 1.1 พันล้านเครื่อง