ทั้งนี้ การกระตุ้นการส่งออกเชื้อเพลิงของจีนมีขึ้นหลังจีนออกโควต้าส่งออกเชื้อเพลิงชุดที่ 3 เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยจีน ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก นำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย อิหร่าน และเวเนซุเอลา และเพิ่มผลผลิตสูงสุดเพื่อยกระดับการส่งออก ซึ่งช่วยผ่อนปรนภาวะตึงตัวและจำกัดราคาของอุปทานน้ำมันเบนซินและดีเซลทั่วโลก
นักวิเคราะห์ประเมินว่า จีนอาจส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และเชื้อเพลิงเครื่องบิน 4.02 ล้านตันในเดือนต.ค. ขณะที่ เคปเลอร์ (Kpler) บริษัทติดตามด้านการขนส่งสินค้า ระบุว่า จีนส่งออกน้ำเชื้อเพลิง 2.38 ล้านตันในเดือนก.ย. และแอลเอสอีจี (LSEG) ระบุว่า การส่งออกอยู่ที่ 3.395 ล้านตันในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่รวมเชื้อเพลิงเครื่องบินที่โหลดบนเที่ยวบินขาออกของจีน ซึ่งกรมศุลากรจีนนับรวมว่าเป็นการส่งออก
"แผนการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.บ่งชี้ว่า กลุ่มโรงกลั่นไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องการใช้โควต้าและคาดการณ์ว่าจะมีการออกโควต้าส่งออกเพิ่มเติมในอนาคต" ซวิน เจียหนาน นักวิเคราะห์ของบริษัทเอนเนอร์จี แอสเปก ระบุ โดยอ้างอิงถึงการให้โควต้าสำหรับไตรมาส 4/2566