มาเลเซียเผชิญภาวะขาดแคลนข้าว หลังราคาพุ่งขึ้นทั่วโลก

ราคาข้าวนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นในมาเลเซียทำให้ผู้บริโภคแห่ซื้อข้าวที่ปลูกภายในประเทศแทน เนื่องจากมีราคาถูกกว่า โดยราคาข้าวที่พุ่งทะยานขึ้นส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าของภาคครัวเรือนที่เผชิญปัญหาราคาอาหารแพงอยู่แล้ว

รัฐบาลมาเลเซียได้เริ่มดำเนินโครงการเพิ่มการผลิตข้าวในประเทศ เนื่องจากข้าวท้องถิ่นในปัจจุบันนั้นรองรับอุปสงค์ภายในประเทศได้เพียง 70% เท่านั้น โดยทุกวันนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านชำขนาดเล็กจำนวนมากมักขาดแคลนข้าว หลังผู้บริโภคแห่แย่งกันซื้อข้าวถุง 5 กิโลกรัมและ 10 กิโลกรัมจนหมดเกลี้ยงตั้งแต่เพิ่งวางจำหน่าย

นายอาเมียร์ อาลีมายดิน กรรมการผู้จัดการบริษัทมายดิน (Mydin) เชนซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชียว่า ภาวะขาดแคลนข้าวในมาเลเซียนั้นเป็นผลมาจากส่วนต่างที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างราคาข้าวที่ผลิตในประเทศและข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศ

"ภาวะขาดแคลนข้าวในมาเลเซียเกิดขึ้นเพราะประชาชนตื่นตระหนกเมื่อเห็นราคาข้าวแตกต่างกัน ดังนั้นประชาชนจึงแห่ซื้อข้าวกักตุน เมื่อประชาชนเรือนแสนพร้อมใจกันซื้อข้าวมากกว่าปกติหนึ่งหรือสองถุงก็ทำให้ข้าวหลายตันหายไปจากท้องตลาด" นายมายดินกล่าว

ในมาเลเซีย ข้าวขาวท้องถิ่นเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งถูกจำกัดอยู่ที่ 26 ริงกิต (5.54 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อ 10 กิโลกรัม ขณะที่ราคาข้าวนำเข้ามีราคาแพงกว่าข้าวท้องถิ่นตั้งแต่ก่อนที่ราคาข้าวโลกจะพุ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยมาเลเซียนำเข้าข้าวขาวส่วนใหญ่จากอินเดีย ปากีสถาน ไทย เวียดนาม และกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างของราคาข้าวท้องถิ่นและข้าวนำเข้านั้นขยายกว้างขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด หลังหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของรัฐบาลมาเลเซีย (Padiberas Nasional Berhad : BERNAS) ซึ่งควบคุมการจัดสรรข้าว ได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกข้าวนำเข้า 36% เพื่อให้สอดคล้องกับราคาข้าวที่พุ่งขึ้นทั่วโลกเมื่อไม่นานมานี้ในวันที่ 1 ก.ย. ทำให้อุปสงค์ข้าวท้องถิ่นที่มีราคาถูกกว่าพุ่งทะยานขึ้น โดยปัจจุบันราคาข้าวนำเข้าอยู่ที่ระหว่าง 30?70 ริงกิตต่อ 10 กิโลกรัม

ทั้งนี้ ดัชนีราคาข้าวรวมขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติแตะ 142.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 31% จากปีก่อนหน้า ท่ามกลางภาวะขาดแคลนข้าวขาวทั่วโลก และจากการที่อินเดียสั่งห้ามส่งออกข้าวนับตั้งแต่เดือนก.ค.

---