ตามปกติแล้ว ช่วงเทศกาลวันหยุดโกลเดนวีค (Golden Week) ของจีนซึ่งประกอบด้วยวันหยุดเนื่องในวันชาติ (National Day) และเทศกาลไหว้พระจันทร์ จะเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการเนื้อหมูเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากชาวจีนจะจัดงานรื่นเริงและใช้เนื้อหมูในการปรุงอาหารรสเลิศ เช่น หมูสามชั้นตุ๋น หรือซี่โครงหมูอบซอสเปรี้ยวหวาน เพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับญาติมิตรที่มารวมตัวกันในครัวเรือน ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงวันหยุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เทศกาลวันหยุดโกลเดนวีคในปีนี้ตรงกับวันที่ 29 ก.ย.ยาวไปจนถึงวันที่ 6 ต.ค. ซึ่งความต้องการเนื้อหมูน่าจะเพิ่มขึ้น แต่การบริโภคเนื้อหมูในจีนกลับชะลอตัวลง และปริมาณเนื้อหมูในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความไม่แน่นอนทางการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ทุกประเภทในตลาดจีน
ราคาสุกรและเนื้อหมู ซึ่งโดยปกติจะปรับตัวขึ้นเนื่องจากคาดว่าชาวจีนมักจะซื้อในช่วงเทศกาลวันหยุดนั้น กลับชะลอตัวลงในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณลบที่บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมเนื้อหมูของจีนยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19
นายเหยา ซางหลี ผู้ค้าส่งเนื้อหมูให้กับร้านอาหารต่าง ๆ ในเมืองเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า "การขายเนื้อหมูซบเซาลงอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในขณะนี้ทำให้ความต้องการเนื้อหมูลดน้อยลงด้วย และจนถึงขณะนี้ผมยังไม่กล้าสต็อกเนื้อหมูไว้มากนักก่อนที่จะถึงวันหยุด"
การบริโภคเนื้อหมูในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าจากในช่วง 40 ปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจำนวนชนชั้นกลางในจีนเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะนี้แม้แต่ครัวเรือนที่ค่อนข้างร่ำรวยก็พากันประหยัด เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น
ข้อมูลจากบริษัทซิติก ฟิวเจอร์สระบุว่า ยอดขายเนื้อหมูในตลาดสดของมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ปรับตัวลง โดยเนื้อหมูสดที่ปกติเคยขายหมดในช่วงเช้า กลับยังคงเหลืออยู่ในร้านจนถึงช่วงบ่าย ขณะที่ราคาสุกรทั่วประเทศจีนลดลงกว่า 5% นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย. และราคาขายส่งเนื้อหมูปรับตัวลงด้วยเช่นกัน