ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ (29 ก.ย.) รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวของสภาคองเกรส
-- ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (29 ก.ย.) เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ร่วมกับบรรดานักวิชาการเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) โดยเขากล่าวเพียงว่า การทำให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของเฟดนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ และหนึ่งในเป้าหมายของเฟดในการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจก็คือ การให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจด้านการใช้จ่ายและการลงทุนทั้งในวันนี้และในอีกหลายเดือนข้างหน้า
-- นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.
นายพีท บูติเจจ รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งของสหรัฐเตือนว่า หากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกชัตดาวน์ ก็จะส่งผลให้การเดินทางทางอากาศต้องหยุดชะงักลง และอาจทำให้รัฐบาลต้องสั่งให้พนักงานของหอควบคุมการจราจรทางอากาศจำนวนมากหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะที่สมาคมการเดินทางแห่งสหรัฐ (U.S. Travel Association) ประเมินว่า การชัตดาวน์จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเดินทางของสหรัฐเป็นจำนวนมากถึง 140 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
-- บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (เทปโก้) ผู้บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะทำการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีครั้งใหม่ในวันที่ 5 ต.ค.นี้
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนวานนี้ (28 ก.ย.) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 214,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2566 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ในไตรมาสดังกล่าว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.4%
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 7.1% สู่ระดับ 71.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2565 เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีปรับตัวลงเพียง 0.8%
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 18.7% ในเดือนส.ค.
ดัชนีได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ (29 ก.ย.) ทางการอังกฤษจะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) เวลา 13.00 น. ตามเวลาไทย จากนั้นยูโรโซนจะรายงานอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือนก.ย. เวลา 16.00 น.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ (29 ก.ย.) ในเวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือนก.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.