ทั้งนี้ ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปเปิดเผยในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งต่อทางบริษัทว่า นายหุยตกอยู่ภายใต้มาตรการบังคับ สืบเนื่องจาก "เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอาญา"
อย่างไรก็ตาม ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ประบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการที่บังคับใช้กับนายหุย หรือรายละเอียดเกี่ยวกับคดีที่นายหุยตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยหุ้นของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปจะถูกระงับการซื้อขายต่อไปจนกระทั่งมีประกาศแจ้งเพิ่มเติม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังแหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายหุยถูกตำรวจจีนพาตัวไปเมื่อต้นเดือนนี้และปัจจุบันถูกกักตัวอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างเป็นทางการหรือการจับกุมตามกฎหมาย
แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับรายละเอียดข้อกล่าวหาของนายหุย แต่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพนักงานบางรายจากแผนกบริหารความมั่งคั่งของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปในช่วงต้นเดือนนี้ โดยแผนกดังกล่าวระบุในวันที่ 31 ส.ค.ว่า ไม่สามารถชำระเงินค่าผลิตภัณฑ์ที่นักลงทุนส่วนบุคคลถือครองได้เพราะวิกฤตสภาพคล่อง
จุดตกต่ำของนายหุยได้สร้างความไม่แน่นอนเกี่ยวกับชะตากรรมของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป หลังปัญหาเกี่ยวกับแผนปรับโครงสร้างหนี้เมื่อช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้สั่นคลอนตลาดเงินและสร้างความเสี่ยงเรื่องการชำระหนี้ ขณะเดียวกันยังได้บั่นทอนตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยความยุ่งยากของจีน ในฤดูแห่งการขายช่วงหยุดยาววันชาติจีน โดยกรณีของนายหุยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความวิตกกังวลให้กับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ๆ ของจีน ซึ่งหลายคนกำลังเผชิญปัญหาทางการเงินในลักษณะคล้ายคลึงกัน
อนึ่ง นายหุยเป็นหนึ่งในนักธุรกิจใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองมากที่สุดของจีนและอยู่ในกลุ่มบุคคลที่รวยที่สุดในเอเชียในปี 2560 ก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนจะเริ่มต้นนโยบายควบคุมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จีน