China Beige Book International (CBBI) เปิดเผยรายงาน China Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจีนในวันนี้ (29 ก.ย.) โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงในเดือนก.ย. โดยยอดค้าปลีกและอำนาจในการกำหนดราคา รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการปล่อยเงินกู้ ต่างก็ชะลอตัวลงมากกว่าในเดือนส.ค.
การชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3 และยิ่งทำให้จีนมีความเสี่ยงที่จะพลาดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 5%
"การใช้จ่ายด้านค้าปลีกชะลอตัวลงในเดือนก.ย. ขณะที่การใช้จ่ายด้านอาหารและสินค้าแบรนด์หรูปรับตัวลดลงอย่างมาก ส่วนภาพรวมของปรากฏการณ์ "Revenge Spending" หรือ "ชอปปิงล้างแค้น" ในภาคบริการนั้น เป็นไปอย่างไร้ทิศทางในเดือนก.ย. โดยจำนวนประชาชนที่ออกไปเดินทางท่องเที่ยวมีความแข็งแกร่งในขณะที่วันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์ใกล้เข้ามา แต่ยอดขายของบริษัทที่ให้บริการที่พักและภัตตาคารต่าง ๆ ลดลงอย่างมาก"
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ "ชอปปิงล้างแค้น" เป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นหลังยุคโควิด-19 เมื่อผู้บริโภคโหยหาการจับจ่ายใช้สอย หลังจากที่ไม่สามารถออกจากบ้านไปใช้บริการหรือใช้จ่ายได้อย่างเป็นอิสระ เนื่องจากถูกล็อกดาวน์ตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
ทีมงานที่จัดทำ China Beige Book ระบุว่า ข้อมูลประจำเดือนก.ย.นั้น ได้จากการสำรวจบริษัท 1,330 แห่ง โดยแยกเป็นการสำรวจบริษัทเอกชนและบริษัทที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ แต่ส่วนใหญ่มุ่งเน้นการสำรวจบริษัทขนาดใหญ่มากกว่าบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง
หนึ่งในสาระสำคัญของรายงาน China Beige Book ครั้งล่าสุดนี้ คือการสำรวจพบว่า การกู้ยืมของภาคเอกชนจีนลดลงแตะระดับที่ต่ำมาก เนื่องจากสถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยกู้ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยพุ่งขึ้น แม้ว่าธนาคารกลางจีนได้ปรับลดต้นทุนการกู้ยืมลงหลายครั้งแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า ยอดสั่งซื้อเพื่อการส่งออกลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงสร้างแรงกดดันต่อจีน ในขณะที่จีนก็กำลังเผชิญกับความยากลำบากจากภาวะอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง
การเปิดเผยรายงาน China Beige Book มีขึ้นก่อนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย.ในวันเสาร์นี้ (30 ก.ย.), เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลการค้าประจำเดือนก.ย.ในวันที่ 13 ต.ค. และเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันที่ 18 ต.ค.