รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มสั่งแบนการตลาดแอบแฝง (stealth marketing) ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่บริษัทต่าง ๆ ใช้เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนโดยปกปิดว่าเป็นการโฆษณา โดยกฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (1 ต.ค.)
เครือข่ายโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เริ่มพบเห็นการตลาดแอบแฝงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์จะถูกว่าจ้างจากบริษัทให้โฆษณาผลิตภัณฑ์ของตนแบบไม่โปรโมทมากจนเกินไป โดยแสร้งว่าไม่มีความเชื่อมโยงกับบริษัท
หน่วยงานกิจการผู้บริโภคของญี่ปุ่นได้สั่งแบนแนวปฏิบัติดังกล่าว ภายใต้กฎหมายต่อต้านการมอบรางวัลและการแสดงสรรพคุณที่ไม่เป็นธรรม (unjustifiable premiums and misleading representation) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวรวมถึง การส่งเสริมการขายและการโฆษณาแบบไม่เปิดเผยภายใต้ขอบเขตของการตลาดแอบแฝง ซึ่งกฎหมายใหม่นี้ครอบคลุมสื่อทุกรูปแบบทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และอินเทอร์เน็ต
หน่วยงานกำกับดูแลได้กำหนดให้โฆษณาต้องมีข้อความที่แสดงออกอย่างชัดเจนเช่น "โฆษณา", "โปรโมชัน" และ "พีอาร์ (PR)" เพื่อแบ่งแยกออกจากการทำการตลาดแอบแฝง
หากหน่วยงานกำกับดูแลพบว่ามีการละเมิดกฎระเบียบดังกล่าว ทางหน่วยงานอาจแบนการโฆษณานั้น หรือเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
สมาคมการตลาดแบบปากต่อปากของญี่ปุ่น (WOMJ) ซึ่งประกอบด้วยบริษัทโฆษณามากกว่า 60 แห่ง และบริษัทอื่น ๆ ที่ทำการตลาดออนไลน์แบบปากต่อปาก (word-of-mouth marketing) ได้แก้ไขแนวปฏิบัติด้านการเผยแพร่โฆษณาให้สอดคล้องกับการบังคับใช้กฎระเบียบใหม่นี้
นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นยังรายงานอีกว่า บริษัทโฆษณาหลายแห่งและอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดียกำลังศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่นี้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำการตลาดแอบแฝงโดยไม่ได้เจตนา