อินโดนีเซียได้เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันนี้ (2 ต.ค.) หลังเผชิญความล่าช้าและต้นทุนบานปลายมานานหลายปี
รถไฟความเร็วสูงซึ่งเชื่อต่อเส้นทางระหว่างกรุงจาการ์ตากับเมืองบันดุด้วยความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 600 คน โดยรถไฟความเร็วสูงนี้มีชื่อว่า "Whoosh" ซึ่งย่อมาจากคำในภาษาอินโดนีเซียว่า "Waktu Hemat, Operasi Optimal, System Handal" โดยมีความหมายว่า "ประหยัดเวลา, ดำเนินสุดความสามารถ, ระบบที่เชื่อถือได้"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้ถือเป็นความสำเร็จของการขยายโครงสร้างพื้นฐานที่มีมานานนับทศวรรษของอินโดนีเซีย ขณะที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เดินหน้าลงทุนสร้างถนน ท่าเรือ และสนามบิน เพื่อขับเคลื่อนอินโดนีเซียให้ก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีรายได้สูง นอกจากนี้ การเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงนี้ได้กลายเป็นผลงานสำคัญของประธาธานาธิบดีวิโดโด แม้ว่าโครงการจะต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และความล่าช้าหลายปีในการก่อสร้าง
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลให้โครงการก่อสร้างรถไฟเผชิญกับความล่าช้า ซึ่งเดิมมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงแรกในปี 2562 อีกทั้งปัญหาด้านการซื้อที่ดินทำให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 6 พันล้านดอลลาร์ เป็น 7.2 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ การทดสอบความปลอดภัยยังทำให้การเปิดให้บริการรถไฟล่าช้าออกไปจากเดือนส.ค.
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีน และสร้างขึ้นโดยกลุ่มความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (China Railway International)