นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดินหน้าใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายพิเศษอย่างต่อเนื่อง
"นี่ถือเป็นนาทีทองสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น" นายเฮนรี ชิน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชีย-แปซิฟิกของบริษัทซีบีอาร์อี (CBRE) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
"ญี่ปุ่นได้ประโยชน์จากนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายพิเศษ ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกคุมเข้มนโยบายการเงิน" นายชินกล่าว พร้อมระบุว่า ความโปร่งใสและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในภาคค้าปลีกและธุรกิจอาคารที่อยู่อาศัยสำหรับหลายครอบครัว ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
นายชินอธิบายว่า ปัจจัยที่หนุนอุปสงค์ภาคอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นคือเงื่อนไขปล่อยสินเชื่อที่เอื้ออำนวยของญี่ปุ่น โดยอัตราส่วนที่ธนาคารสามารถให้สินเชื่อได้เมื่อเทียบกับราคาบ้านที่ซื้ออยู่ที่ 70% และค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมอยู่ที่ประมาณ 1%
อีกปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นคือเงินเยนอ่อนค่า โดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ -0.1% ของ BOJ นั้นสวนทางกับธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแบบต่อเนื่องตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยกรณีดังกล่าวทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงกว่า 11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
"ปริมาณนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น 100% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี" นายโคจิ นาโตะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดทุนของบริษัทเจแอลแอล (JLL) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกในญี่ปุ่นระบุ
เจแอลแอลระบุว่า นักลงทุนต่างชาติเพิ่มการลงทุนเกือบสองเท่าตัวจากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ด้านซีบีอาร์อีระบุว่า ต่างชาติลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 45% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า