เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ต อินเตอร์เนชันแนล (MGM Resorts International) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ว่า การดำเนินงานที่หยุดชะงักซึ่งมีต้นตอจากปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเดือนก.ย.นั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3/2566
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานก่อนหน้านี้ โดยอ้างอิงแหล่งข่าว 2 แหล่งว่า เอ็มจีเอ็ม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโรงแรมและกาสิโนกว่า 30 แห่งทั่วโลก รวมถึง มาเก๊า และลาสเวกัส ได้ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า "Scattered Spider"
เอ็มจีเอ็มระบุในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานรัฐว่า ทางบริษัทประเมินว่า เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบเชิงลบมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์ต่อผลกำไรหลักของธุรกิจลาสเวกัส สตริป รีสอร์ต (Las Vegas Strip Resorts) และธุรกิจระดับภูมิภาค (Regional Operations) ส่งผลให้ราคาหุ้นเอ็มจีเอ็มร่วงลงเกือบ 1% หลังปิดตลาด
นอกจากนี้ เอ็มจีเอ็มระบุว่า บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ไม่คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการทางการเงินทั้งปีของบริษัท
เมื่อเดือนที่แล้ว เอ็มจีเอ็มระบุว่า โรงแรมและกาสิโนของบริษัทกลับมาดำเนินงานตามปกติอีกครั้ง แต่บริการบางอย่างเช่น กุญแจดิจิทัลและการเช็กอินบนมือถือยังไม่เปิดให้บริการ
เอ็มจีเอ็มคาดว่า อัตราการเข้าพักในเดือนต.ค.นี้จะอยู่ที่ 93% เมื่อเทียบกับ 94% เมื่อปีก่อน และคาดว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ในเดือนพ.ย.สำหรับลาสเวกัส สตริป รีสอร์ต