สมาคมผู้ผลิตเหล็กยูเครน (Ukrmetalurgprom) เปิดเผยในวันนี้ (6 ต.ค.) ว่า ผลผลิตเหล็กของยูเครนจะเพิ่มขึ้นแตะ 6.5 ล้านตันในปี 2566 แต่อาจเพิ่มเป็นสองเท่า หากมีการเปิดท่าเรือทางทะเลของยูเครน
สมาคมเหล็กโลกระบุว่า ยูเครนติดอันดับที่ 25 ในกลุ่มประเทศผู้ผลิตเหล็กเมื่อปี 2565 ขณะที่การบุกโจมตียูเครนโดยรัสเซียนั้นทำให้ผลผลิตลดลง 71% แตะ 6.3 ล้านตัน จาก 21.4 ล้านตัน
รายงานระบุว่า โรงงานเหล็กขนาดใหญ่ 2 แห่งถูกทำลายระหว่างการปิดล้อมเมืองมาริอูโพลเป็นระยะเวลาหลายเดือน ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญริมทะเลอะซอฟ (Azov Sea)
ในทะเลดำ เรือของยูเครนถูกจำกัดให้เดินทางได้เพียงในเส้นทางเดินเรือชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น เนื่องจากรัสเซียประกาศถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (UN) หลังบังคับใช้มานานหนึ่งปี
โอเล็กซานเดอร์ คาเลนคอฟ หัวหน้าสมาคมผู้ผลิตเหล็กยูเครนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "อุตสาหกรรมเหล็กของยูเครนได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการบุกโจมตี โดยในปี 2565 เราสูญเสียโรงงานไปจำนวนหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคือโรงงานในเมืองมาริอูโพล"
นายคาเลนคอฟระบุเสริมว่า ก่อนที่รัสเซียจะเข้ารุกรานยูเครนในเดือนก.พ. 2565 นั้น ยูเครนดำเนินการโรงงานเหล็ก 10 แห่ง โดยมีกำลังการผลิตรวม 25.3 ล้านตันต่อปี ขณะที่โรงงานเหล็ก 6 แห่งที่ยังเหลืออยู่สามารถผลิตเหล็กได้ประมาณ 17 ล้านตัน
ทั้งนี้ นายคาเลนคอฟระบุว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการผลิตเหล็กเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากโครงการฟื้นฟูบูรณะประเทศ และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากกองทัพยูเครน แต่การเปิดท่าเรือในทะเลดำเพื่อการส่งออกก็มีความสำคัญด้วย