ผลสำรวจรายเดือนของสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวเนื่องถึงปี 2568 โดยเกือบ 2 ใน 3 ของบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการในจีนต้องการย้ายการผลิตบางส่วนไปที่อื่นเพื่อแสวงหายอดขายในตลาดอื่น ๆ
มุมมองเชิงระมัดระวังดังกล่าวมีขึ้น แม้ข้อมูลล่าสุดจะบ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้สินของโครงการโครงสร้างพื้นฐานและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงนั้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยกิจกรรมโรงงานของจีนในเดือนกันยายนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ขณะที่ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.
แบบสำรวจดังกล่าวซึ่งสำรวจบริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่ 502 แห่งบ่งชี้ว่า บริษัทญี่ปุ่น 52% คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวจนถึงปี 2568 ขณะที่ 17% คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวน้อยลงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2567 และมีเพียง 5% เท่านั้นที่คาดว่าจะเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นภายในสิ้นปีนี้ หรือภายใน Q1/2567
"การขนส่งสินค้าซบเซาและเป็นเรื่องยากที่ผู้จัดการสินค้าจะดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว" ตัวแทนจากบริษัทขนส่งรายหนึ่งกล่าว
ความมั่งคั่งในครัวเรือนของจีนมากกว่า 2 ใน 3 มีความเกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ และอัตราการว่างงานของเยาวชนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ ไม่เต็มใจที่จะใช้จ่ายมากนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์ทำผลสำรวจแยกอีกฉบับเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่า เศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีแนวโน้มขยายตัว 5% ในปีนี้ และ 4.5% ในปีหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยมูลค่าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้น 14% แตะ 43.8 ล้านล้านเยน (2.94 แสนล้านดอลลาร์) ในปีที่ผ่านมา และปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นดำเนินธุรกิจในจีนมากกว่า 31,000 แห่ง