ปธน.ไบเดนกล่าวว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่พอใจต่อเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในกาซา และจากสิ่งที่ตนได้เห็นมา เรื่องนี้น่าจะเป็นการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่อิสราเอล แต่ก็ยังคงมีคนจำนวนมากที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือใคร นอกจากนี้ นายไบเดนยังได้แสดงความรู้สึกยินดีที่ได้กลับมาอิสราเอล และหวังว่าจะมีการหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการต่อไป
-- แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่มีแผนที่จะจัดการประชุมฉุกเฉิน หรือดำเนินการใด ๆ ตามที่อิหร่านเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรน้ำมันต่ออิสราเอล รวมทั้งให้มีการขับเอกอัครราชทูตอิสราเอลออกจากประเทศสมาชิก OIC เพื่อตอบโต้ต่อการที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา พร้อมระบุว่า กลุ่มโอเปกไม่ใช่องค์กรทางการเมือง
นายจาเซม อัล-บูไดวี เลขาธิการคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) กล่าวว่า GCC มีพันธกรณีในการรักษาเสถียรภาพด้านพลังงาน มีบทบาทเป็นหุ้นส่วนที่ซื่อสัตย์ในฐานะผู้ส่งออกน้ำมันให้กับประชาคมโลก และจะไม่ใช้น้ำมันเป็นอาวุธ
-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.9% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งทะลุ 5%
ณ เวลา 22.41 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.908% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 5.006%
-- ข้อมูลจาก Mortgage News Daily ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543 โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 726,200 ดอลลาร์ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 8% เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) โดยพุ่งขึ้นอย่างมากจากระดับ 3% ในปี 2564
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
-- นักลงทุนเทน้ำหนักกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. และเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 41.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย., ธนาคารกลางเกาหลีใต้แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จีนเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย. และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก Conference Board