โนเกีย ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของฟินแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทจะปลดพนักงานจำนวนมากถึง 14,000 ตำแหน่งหรือราว 16% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดต้นทุน หลังจากผลประกอบการของบริษัททรุดตัวลงอย่างหนักในไตรมาส 3/2566
โนเกียระบุว่า บริษัทจะปรับลดต้นทุน และจะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายในตลาด โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะลดต้นทุนลงประมาณ 800 ล้านยูโร-1.2 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2566 ไปจนถึงสิ้นปี 2569
นอกจากนี้ บริษัทจะลดจำนวนพนักงานลงเหลือประมาณ 72,000-77,000 คนจากจำนวนพนักงานในปัจจุบันที่มีอยู่ 86,000 ราย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การปลดพนักงานจำนวนมากในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากโนเกียรายงานยอดขายสุทธิในไตรมาส 3 ลดลง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 4.98 พันล้านยูโร และกำไรทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 69% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 133 ล้านยูโร
ที่ผ่านมานั้น โนเกียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก เผชิญกับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และจากการที่กลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือพากันลดการใช้จ่ายด้านโครงข่ายโทรคมนาคม
ยอดขายจากธุรกิจเครือข่ายมือถือของโนเกียซึ่งเป็นธุรกิจใหญ่ที่สุดของโนเกียเมื่อพิจารณาจากรายได้นั้น ลดฮวบลง 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 2.16 พันล้านยูโร และกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจดังกล่าวทรุดตัวลง 64% เมื่อเทียบเป็นรายปี
โนเกียระบุว่า ผลประกอบการที่ย่ำแย่ลงในไตรมาส 3 นั้น ส่วนใหญ่มาจากยอดขายที่ชะลอตัวลงในอเมริกาเหนือ ขณะที่ยอดขายในอินเดียกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการติดตั้งโครงข่าย 5G เริ่มชะลอตัวลง