ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) ของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ (26 ต.ค.) ว่า กำไรก่อนหักภาษีสำหรับไตรมาส 3/2566 ลดลง 1 ใน 3 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์และธนาคารของจีน
ทั้งนี้ สแตนชาร์ตซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากในเอเชียระบุว่า กำไรก่อนหักภาษีสำหรับไตรมาส 3/2566 ปรับตัวลงสู่ 633 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 996 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า และ 1.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่นักวิเคราะห์ 16 รายคาดการณ์โดยเฉลี่ย
การขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 294 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2566 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังสแตนชาร์ตต้องกันสำรองเงิน 186 ล้านดอลลาร์เพื่อรองรับการขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่กำลังประสบปัญหาของจีน
ขณะเดียวกัน สแตนชาร์ตยังได้รับผลกระทบ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการถือหุ้นในธนาคารไชน่า ป๋อไห่ แบงก์ (China Bohai Bank) ซึ่งสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอลงของธนาคารไชน่า ป๋อไห่ แบงก์ และความท้าทายทางเศรษฐกิจในจีน
สแตนชาร์ตลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์จีน 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2566 ซึ่งลดลง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากไตรมาส 2