ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 40 จุดในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่บางแห่ง ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท และเมตา แพลตฟอร์มส์ จนส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา
-- ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มอ่อนแรงลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3%
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์นี้ และเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้
-- ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน ปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีรายงานว่า นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทางธนาคาร เตรียมขายหุ้นเจพีมอร์แกนจำนวน 1 ล้านหุ้นในปีหน้า จากจำนวน 8.6 ล้านหุ้นที่เขาถือครองอยู่ โดยเป็นการขายหุ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 18 ปีที่นายไดมอนดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
อย่างไรก็ดี เจพีมอร์แกนระบุว่า การขายหุ้นของนายไดมอนมีจุดประสงค์เพื่อกระจายการลงทุนทางการเงิน และสำหรับการวางแผนทางด้านภาษี โดยเขายังคงมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
-- นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทสเปซเอ็กซ์เปิดเผยว่า ดาวเทียมสตาร์ลิงก์ของบริษัทสเปซเอ็กซ์จะให้การสนับสนุนการเชื่อมต่อด้านการสื่อสารในฉนวนกาซากับองค์กรช่วยเหลือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล หลังจากสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ถูกตัดขาดในฉนวนกาซา ทำให้ผู้คนในฉนวนกาซาไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอก และไม่สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้เมื่อวันเสาร์ (28 ต.ค.) เนื่องจากอิสราเอลได้ขยายการโจมตีอย่างหนักทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินในฉนวนกาซา
-- บริษัทญี่ปุ่นราว 93% ขึ้นค่าจ้างให้กับพนักงานในปี 2565 โดยเหตุผลสำคัญคือเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานย้ายไปทำงานที่อื่น ท่ามกลางสถานการณ์การขาดแคลนแรงงาน
ผลสำรวจของสถาบันนโยบายและการฝึกอบรมแรงงานของญี่ปุ่น ได้รับการเผยแพร่ในขณะที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ กำลังร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นราคาสินค้า ในขณะที่ค่าจ้างขึ้นไม่มากพอ
รายงานระบุว่า ผู้ตอบแบบสำรวจประมาณ 68% ให้เหตุผลว่าขึ้นค่าจ้างเพื่อเพิ่มแรงจูงใจและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ขณะที่ประมาณ 42% เปิดเผยว่าจำเป็นต้องขึ้นค่าจ้างเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพนักงาน
-- บริษัทกูเกิลได้ตกลงที่จะลงทุนราว 2 พันล้านดอลลาร์ในบริษัทแอนทรอปิก (Anthropic) ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตผู้บริหารของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI)
โฆษกของแอนทรอปิกเปิดเผยกับซีเอ็นบีซีว่า ข้อตกลงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการอัดฉีดเงินสดล่วงหน้า 500 ล้านดอลลาร์ และอีก 1.5 พันล้านดอลลาร์ที่จะลงทุนในระยะต่อไป ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแผนการระดมทุน
-- นายแซม แบงก์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีได้ ขึ้นให้การปกป้องตนเองในการพิจารณาคดีฉ้อโกงเมื่อวันศุกร์ (27 ต.ค.) โดยกล่าวว่า ผู้คนจำนวนมากได้รับความเสียหายเมื่อ FTX ล้มละลายเมื่อปีที่แล้ว แต่เขายืนยันว่า เขาไม่ได้ฉ้อโกงใคร หรือขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากลูกค้า
นายแบงก์แมน-ฟรีดได้ตอบคำถามจากทนายความของเขาในวันแรกของการให้การต่อหน้าคณะลูกขุน โดยเขายอมรับว่ากระทำ "ข้อผิดพลาด" เช่น การไม่จัดตั้งทีมงานบริหารความเสี่ยง ขณะเดียวกันก็พยายามกล่าวโทษแคโรไลน์ เอลลิสัน อดีตซีอีโอของอลาเมดา รีเสิร์ช (Alameda Research) ซึ่งเป็นกองทุนประกันความเสี่ยงด้านคริปโทฯ ซึ่งเธอเป็นพยานสำคัญในการดำเนินคดี
-- ธนาคารกลางรัสเซียประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2% สู่ระดับ 15% ในการประชุมครั้งล่าสุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเพียง 1% สู่ระดับ 14% นอกจากนี้ ธนาคารกลางส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 7.5% นับตั้งแต่เดือนก.ค.
การดำเนินการของธนาคารกลางรัสเซียครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และพยุงค่าเงินรูเบิล หลังจากดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 100 รูเบิล/ดอลลาร์